ทำประกันชีวิตคุ้มค่าได้ประโยชน์มากมาย
เชื่อว่าหลายคนเคยคิดอยากทำประกันชีวิตแต่ติดที่ต้องจ่ายเงินเป็นเวลายาวนานตามระยะเวลาที่สัญญากำหนด อาจจะเป็นงวดละเดือนหรือรายปี ซึ่งทำให้การจ่ายเบี้ยประกันชีวิตนั้นอาจมีจำนวนมากและเป็นจำนวนก้อนใหญ่เลยทีเดียว แต่หากพิจารณาการจ่ายเงินในการทำประกันชีวิตถือได้ว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะนอกจากจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายให้กับคนรุ่นหลังแล้วการยังสามารถใช้ในการลดหย่อนภาษีได้ดีอีกด้วย
แต่เราเชื่อว่าผู้สมัครทำประกันร้อยทั้งร้อยมักมาในรูปแบบเดียวกันซึ่งก็คืออยากได้รับการคุ้มครองหลายด้านแต่ก็ไม่อยากจ่ายเบี้ยประกันชีวิตที่แพงและในระยะยาวนั่นเอง ซึ่งเราต้องบอกเลยว่าหากเปรียบเทียบระหว่างการจ่ายเบี้ยประกันให้กับการทำประกันชีวิตและผลประโยชน์ที่จะได้รับแล้วนั้นถือว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอน เช่น
- เป็นการส่งเสริมด้านการออม – ปัจจุบันการทำประกันชีวิตไม่ได้มีเพียงเฉพาะการจ่ายทิ้งเหมือนในสมัยก่อน กล่าวคือสามารถใช้เป็นการออมเงินและเมื่อถึงเวลาครบกำหนด ก็จะสามารถได้รับในส่วนของทุนประกันคืนอีกด้วย
- เสริมสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว – การทำประกันชีวิตและจ่ายเบี้ยประกันตามระยะเวลาในเงื่อนไขประกันชีวิตที่สัญญากำหนด จะเป็นการเริ่มต้นคุ้มครองนับตั้งแต่วันแรกที่ได้เซ็นสัญญา ซึ่งหากเกิดอะไรขึ้นกับผู้ทำประกันชีวิต ผู้รับผลประโยชน์ตามสัญญาก็จะได้รับเงินมาโดยทันที
- เป็นการลดหย่อนภาษีได้เป็นอย่างดี – เรามักพบคำถามว่า “เบี้ยประกันชีวิตลดหย่อนภาษีได้ไหม?” ซึ่งคำตอบก็คือ “ได้” สำหรับหลายคนที่อาจไม่มั่นใจว่าเบี้ยประกันภัยลดหย่อนภาษีได้ไหมหรือไม่ได้ เราบอกได้เลยการทำประกันชีวิตและจ่ายเบี้ยประกันชีวิตสามารถนำไปใช้ในการหักลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
เมื่อรู้ถึงประโยชน์เรามาทำความรู้จักกันบ้างว่า “เบี้ยประกันชีวิต” คืออะไร เพราะหลายคนอาจเข้าใจผิดกันอยู่
เบี้ยประกันชีวิตคืออะไร
หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่าเบี้ยประกันชีวิตมาบ้างแล้วแต่ยังไม่รู้ว่าเบี้ยประกันชีวิตคืออะไร จริงๆแล้วเบี้ยประกันชีวิต คือ จำนวนเงินที่เราได้ทำสัญญากับบริษัทประกันและตกลงว่าจะต้องจ่ายเพื่อเป็นค่าการทำประกันชีวิต โดยการจ่ายค่าเบี้ยประกันนี้ก็จะมีการจ่ายเป็นรายงวดในรอบเดือนหรือรายปีนั่นเอง การจ่ายเบี้ยประกันชีวิตจะเป็นการจ่ายตามที่สัญญาที่มีเงื่อนไขกำหนด เช่นกำหนดอาจจะกำหนดจ่ายครบเมื่อมีผู้ทำประกันมีอายุครบ 60 ปี แต่การคุ้มครองสูงถึงตอนอายุ 90 ปี เมื่อผู้ทำประกันมีอายุครบ 90 ปีก็จะได้รับทุนประกันคืน โดยทุนประกันนี้จะแตกต่างจากเบี้ยประกันชีวิตที่ได้ทำการผ่อนไว้นั่นเอง
เบี้ยประกันชีวิตและทุนประกันต่างกันอย่างไร
หากเปรียบเทียบระหว่างเบี้ยประกันชีวิตและทุนประกันชีวิตนั้น หลายคนอาจจะยังเข้าใจผิดและเรียกสลับกันอยู่ ซึ่งทุนประกันก็คือจำนวนเงินที่จะได้รับหลังจากที่ระยะเวลาของกรมธรรม์คุ้มครอง ซึ่งอาจตีความหมายได้ดังนี้ เช่น หากกรมธรรม์คุ้มครองถึงอายุ 90 ก็หมายความว่า หากผู้ทำประกันเสียชีวิตก่อน ทุนประกันก็จะตกเป็นของผู้รับสิทธิ์ในสัญญาทันที แต่หากผู้ทำประกันยังไม่เสียชีวิต ทุนประกันทั้งหมดก็จะตกเป็นของผู้ทำประกันไปโดยทั้งหมด ทั้งนี้การส่งเบี้ยประกันชีวิตอาจส่งเพียงแค่ในระยะเวลาไม่กี่ปี แต่การคุ้มครองนั้นยาวนานถึง 90 ปีเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามหากเบี้ยประกันชีวิตมีจำนวนมากเกินไป ก็สามารถพิจารณาเลือกทำประกันชีวิตเบี้ยถูกตั้งแต่แรกเลยจะดีกว่า ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำประกันชีวิตก็ควรตรวจตรวจสอบเบี้ยประกันและความสามารถในการจ่ายก่อนจึงะดีที่สุด